๑๑. วัตถุเจือปนอาหาร กฎระเบียบไทย กับ มาตรฐานเทศ ตอน ๔ (๒)

สิ่งสำคัญเมื่อนำข้อกำหนดคุณภาพหรือมาตรฐานวัตถุเจือปนอาหารไปใช้หรือนำไปประกอบการจัดซื้อวัตถุดิบ
     o ต้องตรวจสอบว่าเป็นข้อกำหนดที่ถูกต้องของวัตถุเจือปนอาหารตามต้องการ 
        โดยดูจากเอกลักษณ์ต่าง ๆ เช่น 
        - ชื่อเคมี (Chemical name)
        - เลขประจำต่าง ๆ เช่น เลข INS หรือ เลข CAS (Chemical Abstracts Service เป็นเลขประจำอีกแบบหนึ่งของสารต่าง ๆ)
        - สูตรเคมี (Chemical formula)
        - สูตรโครงสร้าง (Structure formula)
        - น้ำหนักโมเลกุล (Formula weight)
        เช่น ถ้าต้องการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานของ Ammonium Dihydrogen Phosphate
        จะพบว่ามีวัตถุเจือปนอาหารอีกชนิดหนึ่งคือ Diammonium Hydrogen Phosphate ซึ่งมีชื่อใกล้เคียงกันมาก
        จึงต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อนำข้อกำหนดที่ถูกต้องไปใช้
     o ต้องตรวจสอบผลการทดสอบต่าง ๆ ของวัตถุเจือปนที่ต้องใช้หรือต้องจัดซื้อให้อยู่ในเกณฑ์ของข้อกำหนดตามกฎระเบียบ
       เช่น ถ้าต้องการใช้หรือต้องการซื้อ Calcium Ascorbate วัตถุดิบจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดคุณภาพมาตรฐานดังนี้
            - เมื่อวิเคราะห์ (Assay) แล้วสารสำคัญต้องไม่น้อยกว่า ๙๘% ในรูปของ C12H14O12Ca.2H2O
            - ละลายได้ดีในน้ำ ละลายได้เล็กน้อยในเอธานอล และไม่ละลายในอีเธอร์
            - ผ่านการทดสอบว่ามีส่วนประกอบของแคลเซียม
            - การเบี่ยงเบนแสงจำเพาะของสารละลาย ๕% โดยน้ำหนัก ที่มุมแสง ๒๕ องศา อยู่ระหว่าง +๙๕ และ +๙๗ องศา
            - ความเป็นกรดด่างของสารละลาย ๑ ใน ๑๐ อยู่ระหว่าง ๖.๐-๗.๕
            - มีฟลูออไรด์ไม่เกิน ๑๐ มิลลิกรัม/กิโลกรัม (ด้วย Method I)
            - มีตะกั่วไม่เกิน ๒ มิลลิกรัม/กิโลกรัม

ข้อสังเกตุที่สำคัญซึ่งผู้ประกอบการต้องตระหนักทุกครั้งที่ใช้วัตถุเจือปนอาหารตามกฎระเบียบประเทศไทย
๑. ถึงแม้กฎระเบียบประเทศไทยไม่มีบทบัญญัติระบุว่าระบบหมวดอาหารจัดทำเป็นลำดับชั้น (Hierarchy)
    แต่ประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง คำชี้แจงประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ ๓๗๙) พ.ศ. ๒๕๕๙ เรื่อง 
    ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ ๓๕๙) พ.ศ. ๒๕๕๖ เรื่อง ซัยคลาเมต, ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ ๓๘๐) 
    พ.ศ. ๒๕๕๙ เรื่อง ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ ๓๖๐) พ.ศ. ๒๕๕๖ เรื่อง สตีวิออลไกลโคไซด์ และ 
    ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ ๓๘๑) พ.ศ. ๒๕๕๙ เรื่อง วัตถุเจือปนอาหาร (ฉบับที่ ๔) ระบุว่า
    "ในกรณีที่ข้อกำหนดเงื่อนไขการใช้วัตถุเจือปนอาหารนั้นอนุญาตการใช้ในหมวดอาหารใหญ่ เช่น ๑๔.๑.๔ 
     วัตถุเจือปนอาหารนั้นจะถูกอนุญาตให้ใช้ในหมวดย่อยด้วย ได้แก่ "๑๔.๑.๔.๑, ๑๔.๑.๔.๒ และ ๑๔.๑.๔.๓ แต่หากข้อกำหนด
     เงื่อนไขการใช้วัตถุเจือปนอาหารนั้นอนุญาตการใช้ในหมวดย่อยจะอนุญาตให้ใช้เฉพาะในหมวดย่อยเท่านั้น"
๒. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ ๓๘๑) พ.ศ. ๒๕๕๙ เรื่อง วัตถุเจือปนอาหาร (ฉบับที่ ๔) มีบทบัญญัติว่า 
    "การใช้วัตถุเจือปนอาหารที่มีการกำหนดปริมาณสูงสุดที่อนุญาตเป็นตัวเลขในกลุ่มหน้าที่เดียวกันรวมกันตั้งแต่สองชนิดขึ้นไป 
     จะต้องมีผลรวมของสัดส่วนของปริมาณการใช้วัตถุเจือปนอาหารต่อปริมาณสูงสุดที่อนุญาตของวัตถุเจือปนอาหารแต่ละชนิดไม่เกินหนึ่ง"

ตัวอย่างการคำนวณการใช้วัตถุเจือปนอาหารในกลุ่มหน้าที่เดียวกันตั้งแต่ ๒ ชนิดขึ้นไป
ตัวอย่างที่ ๑ สมมตผู้ประกอบการผลิตไอศกรีมหวานเย็นและใช้สีดังนี้
                o Brilliant Blue FCF ๗๕ มิลลิกรัม/กิโลกรัม 
                o Ponceau 4R  มิลลิกรัม/กิโลกรัม

การคำนวณ  
      ปริมาณการใช้ Brilliant Blue FCF = ๗๕   ปริมาณสูงสุดที่อนุญาต ๑๕๐  -->  สัดส่วน ๗๕/๑๕๐ = ๐.๕
      ปริมาณการใช้ Ponceau 4R = ๓๐               ปริมาณสูงสุดที่อนุญาต ๕๐    -->  สัดส่วน = ๓/๕๐ = ๐.๖
      ผลรวมของสัดส่วนของปริมาณการใช้วัตถุเจือปนอาหารต่อปริมาณสูงสุดที่อนุญาต ๐.๕+๐.๖ = ๑.๑

จะเห็นว่า ผลรวมของสัดส่วนของปริมาณการใช้สีต่อปริมาณสูงสุดที่อนุญาตของสีแต่ละชนิด เกินหนึ่ง  

ดังนั้น ไอศกรีมหวานเย็นตามตัวอย่างนี้ที่ใช้สี Brilliant Blue FCF ๗๕ มิลลิกรัม/กิโลกรัม และ Ponceau 4R ๓๐ มิลลิกรัม/กิโลกรัม ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

ตัวอย่างที่ ๒ สมมตผู้ประกอบการปรับปรุงสูตรไอศกรีมหวานเย็นและใช้สีดังนี้
                o Brilliant Blue FCF ๖๐ มิลลิกรัม/กิโลกรัม 
                o Ponceau 4R ๒๕ มิลลิกรัม/กิโลกรัม

การคำนวณ  
      ปริมาณการใช้ Brilliant Blue FCF = ๖๐   ปริมาณสูงสุดที่อนุญาต ๑๕๐   สัดส่วน ๖๐/๑๕๐ = ๐.๔
      ปริมาณการใช้ Ponceau 4R = ๒๕              ปริมาณสูงสุดที่อนุญาต ๕๐     สัดส่วน ๒๕/๕๐ = ๐.๕
      ผลรวมของสัดส่วนของปริมาณการใช้วัตถุเจือปนอาหารต่อปริมาณสูงสุดที่อนุญาต ๐.๔+๐.๕ = ๐.๙

จะเห็นว่า ผลรวมของสัดส่วนของปริมาณการใช้สีต่อปริมาณสูงสุดที่อนุญาตของสีแต่ละชนิด ไม่เกินหนึ่ง  

ดังนั้น ไอศกรีมหวานเย็นตามสูตรปรับปรุงนี้ที่ใช้สี Brilliant Blue FCF ๐ มิลลิกรัม/กิโลกรัม และ Ponceau 4R ๒๕ มิลลิกรัม/กิโลกรัม เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

บทความชุดนี้อาจมีรายละเอียดมาก แต่หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการเมื่อต้องนำวัตถุเจือปนอาหารไปใช้ผลิตอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการ SME ที่กำลังหาตัวช่วยในเรื่องวัตถุเจือปนอาหาร

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

๔. กฎระเบียบแนวดิ่ง กฎระเบียบแนวระนาบ ตอน ๑

๖. ตั้งมาตรฐานอาหารให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ยากอย่างที่คิด

๑๓. สูตรอาหาร เป๊ะตามกฎระเบียบ