๑๒. อาหารทั่วไป รู้ไว้ ใช้ประโยชน์ได้เรื่อย ๆ
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากำหนดขอบเขตของ 'อาหารทั่วไป' ไว้ว่า
เป็น 'อาหารที่มีความเสี่ยงน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นวัตถุดิบที่ต้องนำไปผลิตต่อ
เช่น แป้งสาลี เห็ดหอมแห้ง น้ำตาล เนื้อสัตว์สด กุ้งแห้ง กะปิ เป็นต้น'
และได้กำหนดด้วยว่า อาหารกลุ่มนี้ไม่ต้องขอรับเลขสารบบอาหาร
ทั้งนี้ ได้แบ่งกลุ่มอาหารทั่วไปไว้ ๙ ประเภทเพื่อความสะดวกในการสืบค้น ดังนี้
๑. สัตว์และผลิตภัณฑ์ เช่น เนื้อสัตว์สด สัตว์น้ำสด ไข่สด
๒. พืชและผลิตภัณฑ์ เช่น พืชผักสด ผลไม้สด ถั่วและนัต
๓. สารสกัด/สารสังเคราะห์ เช่น สารสกัดจากพืชที่ใช้เป็นวัตถุดิบ
๔. สารอาหาร เช่น กรดอะมิโนที่ใช้เป็นวัตถุดิบ
๕. แป้งและผลิตภัณฑ์ เช่น แป้งมันสำปะหลัง วุ้นเส้น ก๋วยเตี๋ยว
๖. ผลิตภัณฑ์สำหรับทำอาหารชนิดต่างๆ ที่ยังไม่พร้อมบริโภค
๗. เครื่องปรุงรส เช่น ผงเครื่องปรุงรสในซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
๘. น้ำตาล เช่น น้ำตาลทราย แบะแซ
๙. เครื่องเทศ เช่น มัสตาร์ด พริกไทย พริกป่น
อาหารทั่วไปชนิดอื่น ๆ ในแต่ละประเภท ดูเพิ่มเติมได้จาก food.fda.moph.go.th/Rules/dataRules/2-Generalfoodserialnumber.pdf
ความสำคัญเบื้องต้น ๒ ประการ ของการทำความรู้จักอาหารทั่วไป
๑. ผู้ประกอบการมั่นใจว่าได้ปฎิบัติตามกฎระเบียบอย่างถูกต้องแล้ว:
การจัดอาหารให้อยู่ในประเภท 'อาหารทั่วไป' ของประเทศไทย
ดำเนินการตามขอบเขตที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากำหนดไว้
ยังไม่พบการตราเผยแพร่เป็นกฎหมายหรือกฎระเบียบ
ดังนั้น ผู้ประกอบการทีี่ผลิตอาหารทั่วไปอยู่แล้วและมีข้อสงสัยการปฎิบัติให้ถูกต้องตามกฎระเบียบ
เมื่อได้รู้จักอาหารประเภทนี้อย่างชัดเจน
ก็มั่นใจได้ว่า ได้ปฎิบัติตามกฎระเบียบอย่างถูกต้องแล้ว แม้มิได้ขอรับเลขสารบบอาหาร
๒. การประเมินสูตรอาหารของผู้ประกอบการเป็นไปอย่างถูกต้อง:
ประเด็นสำคัญของการประเมินสูตรอาหารให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
คือการทราบว่าวัตถุดิบแต่ละชนิดที่เลือกมาใช้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดด้วยหรือไม่
ดังนั้น สถานะทางกฎหมายของวัตถุดิบชนิดต่าง ๆ จึงมีความสำคัญมาก
วัตถุดิบจำนวนมากเป็นไปตามกฎระเบียบแนวดิ่งที่ถูกตราไว้เป็นกฎหมายแล้ว
แต่วัตถุดิบอีกจำนวนไม่น้อยถูกจัดเป็น 'อาหารทั่วไป' ตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ดังนั้นการทำความรู้จักอาหารทั่วไปตามขอบเขตที่กำหนดไว้
จะทำให้การประเมินสูตรอาหารของผู้ประกอบการเป็นไปได้อย่างถูกต้องครบถ้วน
สิ่งสำคัญอย่างยิ่งเกี่ยวกับ 'อาหารทั่วไป'
อาหารทั่วไปไม่ต้องขอรับเลขสารบบอาหาร
ไม่มีข้อกำหนดมาตรฐานตามกฎระเบียบแนวดิ่ง (Vertical regulation) บัญญัติไว้
แต่ 'อาหารทั่วไป' ยังคงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดมาตรฐานของ กฎระเบียบแนวระนาบ (Horizontal regulation) อย่างไม่มีข้อยกเว้น
ตัวอย่าง เช่น
เป็น 'อาหารที่มีความเสี่ยงน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นวัตถุดิบที่ต้องนำไปผลิตต่อ
เช่น แป้งสาลี เห็ดหอมแห้ง น้ำตาล เนื้อสัตว์สด กุ้งแห้ง กะปิ เป็นต้น'
และได้กำหนดด้วยว่า อาหารกลุ่มนี้ไม่ต้องขอรับเลขสารบบอาหาร
ทั้งนี้ ได้แบ่งกลุ่มอาหารทั่วไปไว้ ๙ ประเภทเพื่อความสะดวกในการสืบค้น ดังนี้
๑. สัตว์และผลิตภัณฑ์ เช่น เนื้อสัตว์สด สัตว์น้ำสด ไข่สด
๒. พืชและผลิตภัณฑ์ เช่น พืชผักสด ผลไม้สด ถั่วและนัต
๓. สารสกัด/สารสังเคราะห์ เช่น สารสกัดจากพืชที่ใช้เป็นวัตถุดิบ
๔. สารอาหาร เช่น กรดอะมิโนที่ใช้เป็นวัตถุดิบ
๕. แป้งและผลิตภัณฑ์ เช่น แป้งมันสำปะหลัง วุ้นเส้น ก๋วยเตี๋ยว
๖. ผลิตภัณฑ์สำหรับทำอาหารชนิดต่างๆ ที่ยังไม่พร้อมบริโภค
๗. เครื่องปรุงรส เช่น ผงเครื่องปรุงรสในซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
๘. น้ำตาล เช่น น้ำตาลทราย แบะแซ
๙. เครื่องเทศ เช่น มัสตาร์ด พริกไทย พริกป่น
อาหารทั่วไปชนิดอื่น ๆ ในแต่ละประเภท ดูเพิ่มเติมได้จาก food.fda.moph.go.th/Rules/dataRules/2-Generalfoodserialnumber.pdf
ความสำคัญเบื้องต้น ๒ ประการ ของการทำความรู้จักอาหารทั่วไป
๑. ผู้ประกอบการมั่นใจว่าได้ปฎิบัติตามกฎระเบียบอย่างถูกต้องแล้ว:
การจัดอาหารให้อยู่ในประเภท 'อาหารทั่วไป' ของประเทศไทย
ดำเนินการตามขอบเขตที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากำหนดไว้
ยังไม่พบการตราเผยแพร่เป็นกฎหมายหรือกฎระเบียบ
ดังนั้น ผู้ประกอบการทีี่ผลิตอาหารทั่วไปอยู่แล้วและมีข้อสงสัยการปฎิบัติให้ถูกต้องตามกฎระเบียบ
เมื่อได้รู้จักอาหารประเภทนี้อย่างชัดเจน
ก็มั่นใจได้ว่า ได้ปฎิบัติตามกฎระเบียบอย่างถูกต้องแล้ว แม้มิได้ขอรับเลขสารบบอาหาร
๒. การประเมินสูตรอาหารของผู้ประกอบการเป็นไปอย่างถูกต้อง:
ประเด็นสำคัญของการประเมินสูตรอาหารให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
คือการทราบว่าวัตถุดิบแต่ละชนิดที่เลือกมาใช้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดด้วยหรือไม่
ดังนั้น สถานะทางกฎหมายของวัตถุดิบชนิดต่าง ๆ จึงมีความสำคัญมาก
วัตถุดิบจำนวนมากเป็นไปตามกฎระเบียบแนวดิ่งที่ถูกตราไว้เป็นกฎหมายแล้ว
แต่วัตถุดิบอีกจำนวนไม่น้อยถูกจัดเป็น 'อาหารทั่วไป' ตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ดังนั้นการทำความรู้จักอาหารทั่วไปตามขอบเขตที่กำหนดไว้
จะทำให้การประเมินสูตรอาหารของผู้ประกอบการเป็นไปได้อย่างถูกต้องครบถ้วน
สิ่งสำคัญอย่างยิ่งเกี่ยวกับ 'อาหารทั่วไป'
อาหารทั่วไปไม่ต้องขอรับเลขสารบบอาหาร
ไม่มีข้อกำหนดมาตรฐานตามกฎระเบียบแนวดิ่ง (Vertical regulation) บัญญัติไว้
แต่ 'อาหารทั่วไป' ยังคงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดมาตรฐานของ กฎระเบียบแนวระนาบ (Horizontal regulation) อย่างไม่มีข้อยกเว้น
ตัวอย่าง เช่น
• อาหารทั่วไปต้องไม่มีสารห้ามใช้ตามกฎระเบียบเกี่ยวกับสารที่ห้ามใช้ในอาหาร
• อาหารทั่วไปต้องไม่มีสารปนเปื้อนตามกฎระเบียบเกี่ยวกับสารปนเปื้อนในอาหาร
• อาหารทั่วไปต้องไม่มีสารเคมีตกค้างตามกฎระเบียบเกี่ยวกับสารเคมีตกค้างในอาหาร
• อาหารทั่วไปต้องไม่มีสารปนเปื้อนตามกฎระเบียบเกี่ยวกับสารปนเปื้อนในอาหาร
• อาหารทั่วไปต้องไม่มีสารเคมีตกค้างตามกฎระเบียบเกี่ยวกับสารเคมีตกค้างในอาหาร
• ฯลฯ
ข้อกำหนดมาตรฐานของกฎระเบียบแนวระนาบ (Horizontal regulation) ดูเพิ่มเติมได้จากบทความ '๓. กฎระเบียบที่ใช้กับอาหารทุกชนิด' และ '๕. กฎระเบียบแนวดิ่ง กฎระเบียบแนวระนาบ ตอน ๒'
บทความต่อไป '๑๓. สูตรอาหาร เป็ะตามกฎระเบียบ'
ผู้ประกอบการจะได้เรียนรู้การประเมินสูตรอาหารให้เป็นไปตามกฎระเบียบด้วยตัวเอง
บทความต่อไป '๑๓. สูตรอาหาร เป็ะตามกฎระเบียบ'
ผู้ประกอบการจะได้เรียนรู้การประเมินสูตรอาหารให้เป็นไปตามกฎระเบียบด้วยตัวเอง
ซึ่งจะพบว่า 'อาหารทั่วไป' เป็นส่วนประกอบของอาหารเกือบทุกชนิด
และจะพบด้วยว่า อาหารทั่วไป รู้ไว้ ใช้ประโยชน์ได้เรื่อย ๆ จริง ๆ
และจะพบด้วยว่า อาหารทั่วไป รู้ไว้ ใช้ประโยชน์ได้เรื่อย ๆ จริง ๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น